ในปัจจุบันนี้ เราอาจเรียกยุคของเราว่ายุคโลกาภิวัตน์ หรือโลกไร้พรมแดน ไม่เพียงแต่ในเรื่องของการที่เราสามารถติดต่อกับผู้คนที่อยู่คนละสถานที่ ในคนละเส้นเวลา โดยอาศัยเพียงแค่เวลาไม่กี่วินาทีกับอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากจะเอื้ออำนวยต่อการพูดคุยกับผู้คนที่อยู่ห่างไกลแล้ว ยังทำให้เปิดโอกาสให้คนไทยได้ค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
พูดถึงการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน หากเป็นเมื่อก่อนเราคงนึกถึงภาพของตลาดใหญ่เช่นการส่งออก แต่เมื่อระบบการขนส่งพัฒนาขึ้น แม้แต่ผู้ขายรายย่อยก็สามารถส่งสินค้าไปขายประเทศใกล้เคียงได้ เช่นประเทศพม่าเป็นต้น พม่าเป็นประเทศที่ง่ายต่อการส่งของ เนื่องจากมีพรมแดนติดกับไทยอยู่หลายจังหวัด ทำให้ระยะเวลาในการส่งของไม่นานนัก บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักวิธีเบื้องต้นในการส่งของไปประเทศพม่า ซึ่งอาจไม่ยุ่งยากหรือใช้เวลานานอย่างที่หลายคนคิด
1.ระบบขนส่ง
ก่อนอื่นเราต้องทำความรู้จักกับระบบขนส่งที่ใช้ในการส่งของไปยังประเทศพม่าก่อน ซึ่งแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ ทางบก และทางเรือ
สำหรับการขนส่งทางบกนั้น จะใช้เวลาในการส่งไม่เกิน 3 วัน หากส่งจากด่านต่างๆ ที่ทั้งสองประเทศมี ได้แก่
1.1 ด่านแม่สอด จังหวัดตาก อยู่ตรงข้ามเมืองเมียวดี
1.2 ด่านแม่สาย จังหวัดเชียงราย อยู่ตรงข้ามอำเภอท่าขี้เหล็กของพม่า
1.3 ด่านบ้านน้ำพุร้อน จังหวัดกาญจนบุรี อยู่ตรงข้ามกับเมืองทวาย
1.4 ด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ตรงข้ามกับเมืองมะริด
1.5 ด่านระนอง จังหวัดระนอง อยู่ตรงข้ามกับเกาะสอง ของพม่า
อย่างไรก็ตาม ระบบการจัดส่งด้วยวิธีข้ามพรมแดนผ่านด่านนั้น ไม่เหมือนการจัดส่งพัสดุภายในประเทศที่พนักงานจะนำของไปส่งตามที่อยู่ของผู้รับในทันที แต่การส่งด้วยวิธีนี้ พัสดุจะไปอยู่ที่ด่านชายแดนของไทย ก่อนจะถูกส่งต่อให้กับบริษัทขนส่งภายในประเทศพม่ารับไปอีกทีหนึ่ง ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้เมื่อจะส่งของก็คือ การถามความต้องการของผู้รับว่าต้องการให้ใครมารับพัสดุที่บริษัทฝั่งไทย
ในด้านระบบขนส่งทางเรือ เป็นวิธีที่ใช้กันมานานและเป็นสากล ส่วนมากมักใช้ในการจัดส่งของชิ้นใหญ่ โดยจะใช้เวลาประมาณ 14 วันจากไทยไปถึงกรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า
2.ข้อดีและข้อเสียของการส่งสินค้าทางด่านพม่า และทางเรือ
2.1 ข้อดีของการส่งสินค้าไปประเทศพม่าผ่านทางบก
คือ ระยะเวลาที่สั้นกว่าการขนส่งทางเรือ เหมาะสำหรับการส่งสินค้าที่รีบใช้ หรือของที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เช่น สินค้าอุปโภค บริโภคต่าง ๆ ส่วนข้อเสียของการส่งสินค้าผ่านทางด่านระหว่างประเทศก็คือไม่เหมาะกับการส่งสินค้าขนาดใหญ่ หรือสินค้าล็อตใหญ่ ๆ
2.2 ข้อดีของการจัดส่งสินค้าทางเรือ
คือ ความเป็นระบบสากล และโดยทั่วไปแล้ว การจัดส่งสินค้าทางเรือจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อชิ้นถูกกว่าการส่งด้วยวิธีอื่นๆ การส่งของผ่านทางเรือเหมาะกับสินค้าชิ้นใหญ่ เช่น ชุดเฟอร์นิเจอร์ หรือสินค้าที่เป็นล็อตใหญ่ๆ แต่ข้อเสียของการส่งทางเรือคือระยะเวลาในการขนส่งที่มากกว่าทางบก มีขั้นตอนในการทำเอกสารต่างๆ และไม่เหมาะกับการส่งของชิ้นเล็ก เพราะเสี่ยงต่อการสูญหายได้
และนี่ก็คือข้อมูลเบื้องต้นของวิธีการส่งของไปพม่า สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการดูว่าของที่เราต้องการจะส่งนั้นเหมาะสมกับวิธีแบบไหน เช่น การดูที่ขนาด ปริมาณ และเวลาที่ลูกค้าต้องการใช้เป็นต้น